โหมด Auto เป็นโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ 100% หมายความว่า กล้องจะตั้งค่าพารามิเตอร์ให้ทุกค่า เหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพเมื่อคิดอะไรไม่ออก โหมด Auto ไม่ใช่โหมดที่ถ่ายภาพได้สวยที่สุด แต่เป็นโหมดที่ถ่ายภาพง่าย และมีโอกาสถ่ายภาพเสียน้อย หัวใจสำคัญของโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติคือเซ็นเซอร์วัดแสงในตัวกล้อง กล้องของเราจะตัดสินใจปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆ จากค่าแสงที่วัดได้ สังเกตได้ว่าเมื่อถ่ายภาพย้อนแสง ภาพที่ได้ส่วนใหญ่ตัวแบบจะหน้าดำ หน้ามืด เป็นเพราะกล้องวัดแสงได้ปริมาณมาก จึงปรับค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ให้เหมาะกับสภาพแสงนั้น ซึ่งหมายถึงแสงทั้งเฟรม (ส่วนใหญ่เป็นแสงที่ส่งตรงมาจากแหล่งกำเนิดแสง หรือถ่ายย้อนแสงนั่นเอง) แต่ในความเป็นจริง จุดที่เราควรจะวัดแสงในสถานการณ์อย่างนี้ คือบริเวณสีผิวของตัวแบบ ซึ่งต้องใช้การวัดแสงแบบ spot หรือแบบเฉลี่ยหนักกลางนั่นเอง โหมด Auto จึงเหมาะสำหรับถ่ายภาพในสถานการณ์ง่ายๆ แสงและเงาในเฟรมไม่ต่างกันมากนัก กล้องจึงจะวัดแสงได้อย่างแม่นยำและปรับค่าพารามิเตอร์ได้อย่างเหมาะสม
โหมดถ่ายภาพสำเร็จ (Scene Preset) เป็นโหมดสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ไม่ชำนาญเรื่องการถ่ายภาพมากนัก แต่อยากได้ภาพสวย ๆ หลากหลายอารมณ์คล้ายภาพที่ถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพ กล้องดิจิตอลได้ใส่โปรแกรมควบคุมการบันทึกภาพสำเร็จ (Scene Preset) ซึ่งเป็นลักษณะการตั้งค่าบันทึกล่วงหน้า (ค่า white balance - ค่าความเร็วชัตเตอร์ - ค่ารูรับแสง - การทำงานของแฟลช - ระยะซูมของเลนส์) โดยแบ่งตามลักษณะของภาพที่ต้องการ ผู้ถ่ายภาพไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานด้านการถ่ายภาพมากนัก เพียงแค่รู้ลักษณะของภาพที่ต้องการบันทึก แล้วปรับเลือกโปรแกรมสำเร็จที่อยู่ในตัวกล้องให้เหมาะสมเท่านั้น กล้องโดยทั่วๆ ไปแล้วจะมีโปรแกรมสำเร็จเป็นมาตรฐานอยู่ 4 - 5 แบบที่เหมือนๆ กัน นอกจากนั้นจะขึ้นอยู่กับรุ่น และยี่ห้อของกล้องที่จะมีให้เลือกมากหรือน้อยแตกต่างกันไป เช่น Portrait หรือภาพสัญลักษณ์รูปหน้าคน
Sport หรือภาพสัญลักษณ์รูปคนวิ่ง Landscape หรือภาพสัญลักษณ์วิว Macro / Close Up หรือภาพสัญลักษณ์ดอกไม้ Night Landscape / night scene หรือภาพวิวที่มีดวงจันทร์เป็นฉากหลัง Night Portrait หรือภาพคนมีฉากหลังเป็นดวงจันทร์หรือดาว เป็นต้น การถ่ายภาพในโหมดสำเร็จก็สามารถเลือกไปที่รูปสัญลักษณ์ที่ตัวกล้อง ตามสถานการณ์ที่ต้องการจะถ่ายภาพ
